หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ SME เลือกใช้กันมากที่สุด คือ “สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ” (Working Capital Loan) ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้กิจการมีเงินพร้อมใช้ตลอดเวลา ทั้งเพื่อซื้อของเข้าสต๊อก จ่ายค่าจ้างพนักงาน ชำระค่าวัตถุดิบ ไปจนถึงรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานจนถึงเทคนิคการขออนุมัติให้ผ่านง่าย พร้อมประโยชน์จริงที่ธุรกิจจะได้รับแบบเจาะลึก

1. สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจคืออะไร?

สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ คือ วงเงินกู้ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจัดให้เพื่อใช้บริหารสภาพคล่องในกิจการแบบต่อเนื่อง สามารถเบิก-ใช้-คืนได้ตามต้องการ เช่นเดียวกับกระแสเงินสดที่หมุนตลอดเวลา

หลักการเหมือน “เงินสำรองธุรกิจ” ใครใช้ก็เบิก ใครขายก็คืน ทำให้ไม่ต้องขอสินเชื่อใหม่ทุกครั้งเมื่อมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น

เหมาะสำหรับ:

• ธุรกิจที่มีรายรับรายจ่ายสม่ำเสมอ

• ธุรกิจที่มีรอบการผลิต เช่น โรงงาน

• ธุรกิจที่ต้องสต๊อกสินค้า เช่น ค้าส่ง/ค้าปลีก

• ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์

• ร้านอาหาร ร้านกาแฟ

• กิจการออนไลน์ที่ต้องหมุนเงินเพื่อสั่งสินค้า

2. ประเภทของสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ

แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่สินเชื่อหมุนเวียนมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบตอบโจทย์ธุรกิจต่างกัน ดังนี้

2.1 วงเงินเบิกเกินบัญชี (OD – Overdraft)

วงเงินฮิตที่สุดเบิกใช้เมื่อไรก็ได้ ดอกเบี้ยคิดเฉพาะยอดที่ใช้จริงเหมาะมากสำหรับธุรกิจที่รายรับเข้าไม่แน่นอน แต่มีรายจ่ายที่ต้องจ่ายตรงเวลา เช่น ค่าของ ค่าคนงาน

ข้อดี:✔ ใช้เท่าที่จำเป็น ดอกเบี้ยไม่บาน✔ อนุมัติเร็วกว่าแบบอื่น✔ หมุนคืนเมื่อมีเงินเข้าได้ตลอด

ข้อจำกัด:ต้องมีเครดิตดี หรือมีหลักประกัน (เช่น หนังสือค้ำ, ที่ดิน, เงินฝาก)

2.2 สินเชื่อเพื่อซื้อวัตถุดิบ / สินค้าสต๊อก

เหมาะกับธุรกิจที่ต้องซื้อของเข้าสต๊อกจำนวนมาก เช่น ร้านวัสดุ ร้านอาหาร โรงงานผลิต

ข้อดี:✔ กู้ตามรอบการผลิต✔ วงเงินสูงกว่า OD✔ ดอกเบี้ยต่ำกว่า

ข้อจำกัด:ต้องส่งเอกสารต้นทุนสินค้าและการผลิตมากกว่า

2.3 สินเชื่อเพื่อชำระคู่ค้า (Trade Finance / Payable Finance)

เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องสั่งสินค้าจาก Supplier และต้องการเครดิตเทอมเพิ่ม

ข้อดี:✔ เพิ่มรอบเงินสด✔ ต่อรองราคากับคู่ค้าได้ดีขึ้น✔ เหมาะกับร้านขายส่ง/นำเข้า

2.4 สินเชื่อรายได้เข้า – ผ่อนตามกระแสเงินสด

สถาบันเอกชนเริ่มนิยมแบบนี้ เช่น สินเชื่อร้านค้าออนไลน์

ข้อดี:✔ ใช้รายได้เป็นหลักในการอนุมัติ✔ ไม่ต้องมีผู้ค้ำ✔ ผ่อนตามยอดขายจริง

3. สินเชื่อหมุนเวียนต่างจากสินเชื่อทั่วไปอย่างไร?

สรุปง่ายมาก:ถ้าคุณต้องหมุนเงินทุกวัน → เลือกสินเชื่อหมุนเวียนถ้าคุณต้องซื้อของชิ้นใหญ่ → เลือกสินเชื่อธุรกิจแบบผ่อน

4. ทำไมเจ้าของกิจการต้องมีสินเชื่อหมุนเวียน? ประโยชน์จริง 10 ข้อ

4.1 กันเงินขาดมือในช่วงเร่งด่วน

ค่าใช้จ่ายบางอย่างรอไม่ได้ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าขนส่ง การมีวงเงินจะช่วยให้ไม่สะดุด

4.2 ใช้เฉพาะตอนจำเป็น ลดดอกเบี้ยจ่าย

แตกต่างจากกู้แบบผ่อนที่ต้องจ่ายทั้งก้อน ถึงแม้ไม่ได้ใช้

4.3 ซื้อของได้เยอะขึ้น ลดต้นทุนต่อหน่วย

ซื้อเป็นล็อตใหญ่ ได้ราคาส่ง ทำให้กำไรเพิ่ม

4.4 เพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจ

มีเงินพร้อมลงทุน ไม่ต้องรอสะสมกำไรหลายเดือน

4.5 รองรับยอดสั่งซื้อที่พุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน

เช่น ช่วงเทศกาล สงกรานต์ ปีใหม่ ยอดขายสูงขึ้น → ต้องมีสต๊อกเพิ่มทันที

4.6 ช่วยสร้างเครดิตธุรกิจ

ยิ่งใช้-คืนตรงเวลา ยิ่งมีโอกาสได้วงเงินสูงขึ้นเรื่อย ๆ

4.7 ลดปัญหาหนี้นอกระบบ

เพราะอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อธุรกิจถูกกว่ามาก

4.8 สร้างความน่าเชื่อถือกับคู่ค้า

เมื่อคุณมีกำลังซื้อ คู่ค้าจะให้เครดิตและส่วนลดเพิ่มขึ้น

4.9 ลดความเครียดในการบริหารเงิน

เจ้าของกิจการหลายคนหมดเรี่ยวแรงเพราะต้องคิดเรื่องเงินตลอดเวลา วงเงินหมุนเวียนช่วยจัดการตรงนี้

4.10 ช่วยให้ธุรกิจโตได้อย่างมั่นคง

เงินหมุนที่ดี = เติบโตต่อเนื่อง ไม่สะดุด

5. เอกสารที่ใช้ยื่นขอสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ

บุคคลธรรมดา / เจ้าของกิจการรายย่อย

• สำเนาบัตรประชาชน

• ทะเบียนบ้าน

• เอกสารรายได้ เช่น Statement 6–12 เดือน

• ใบจดทะเบียนพาณิชย์ (ถ้ามี)

• รายการขาย เช่น สลิปโอน, รายได้ออนไลน์

นิติบุคคล

• หนังสือรับรองบริษัท

• ภพ.20

• งบการเงิน

• Statement บริษัท

• สัญญาซื้อขายกับลูกค้า/คู่ค้า

• บัญชีสต๊อกสินค้า (ถ้ามี)

หลักสำคัญคือ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีรายรับสม่ำเสมอ และสามารถคืนเงินได้

6. วิธีขออนุมัติสินเชื่อหมุนเวียนให้ผ่านง่าย

✔ 6.1 Statement ต้อง “สวย”

• เงินเข้าบ่อย

• ไม่ควรถอนหมดเหลือ 0 ทุกวัน

• ไม่ควรหมุนบัญชีแบบไม่สมเหตุผล

Statement ที่ดี = ธนาคารเชื่อถือ → อนุมัติไว

✔ 6.2 แสดงรายได้จริงให้เห็น

ธุรกิจออนไลน์ใช้ยอดขายจากแพลตฟอร์ม เช่น Shopee, Lazada, LINE Shopping, Facebook Page มาประกอบได้

✔ 6.3 มีข้อมูลรอบการเงินที่ชัดเจน

ธนาคารอยากรู้ว่า คุณหมุนเงินอย่างไร?เช่น ซื้อของวันไหน? ขายวันไหน? เงินเข้าตอนไหน?

✔ 6.4 ถ้ามีหลักประกัน วงเงินเพิ่มทันที

เช่น

• ที่ดิน

• คอนโด

• รถ

• เงินฝาก

✔ 6.5 ขอวงเงินให้เหมาะกับธุรกิจ

หากขอสูงเกินไป อาจถูกปฏิเสธเพราะดูเสี่ยง

7. สินเชื่อหมุนเวียนเหมาะกับธุรกิจแบบไหนมากที่สุด?

• ค้าส่ง-ค้าปลีก

หมุนเงินทุกวัน ซื้อของเป็นล็อตใหญ่

• ร้านอาหาร

วัตถุดิบต้องสั่งทุกวัน ยิ่งขายดี ยิ่งต้องมีเงินหมุนเพิ่ม

• ธุรกิจโลจิสติกส์

ค่าน้ำมัน ค่าคนงาน ค่าซ่อมรถเกิดขึ้นตลอดเวลา

• ร้านค้าออนไลน์

ช่วงโปรโมชั่นยอดสั่งพุ่ง ต้องสต๊อกเพิ่มทันที

• โรงงาน

มีรอบการผลิตชัดเจน ต้องจ่ายค่าวัตถุดิบก่อนได้เงินกลับมา

• ธุรกิจบริการ

เช่น คลินิก ซ่อมรถ ร้านเสริมสวย มีค่าใช้จ่ายประจำทุกเดือน

8. เคล็ดลับใช้ “วงเงินหมุนเวียน” ให้ธุรกิจเติบโตจริง

8.1 อย่าใช้ผิดวัตถุประสงค์

เงินหมุนเวียน = ใช้ซื้อของ ลงทุนหมุนรอบการขายไม่ควรนำไปใช้ส่วนตัว เช่น ซื้อโทรศัพท์, ซื้อรถใหม่

8.2 หมุนแล้วคืนทันทีเมื่อได้เงิน

ช่วยลดดอกเบี้ย และสร้างเครดิตดีมาก

8.3 จดบัญชีรอบการใช้เงิน

เช่น

• รอบซื้อของ: ทุกวันอังคาร

• รอบจ่ายเงินเดือน: ทุกสิ้นเดือน

• รอบรายรับเข้าบัญชี: ทุกวันศุกร์

การรู้รอบเงินทำให้คุณบริหารวงเงินได้ดีที่สุด

8.4 แยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีธุรกิจ

ธนาคารจะให้วงเงินง่ายขึ้นมาก

8.5 ใช้วงเงินเพื่อขยาย ไม่ใช่บรรเทา

เงินหมุนเวียนควรช่วยคุณหา “กำไรเพิ่ม” ไม่ใช่แก้ปัญหาขาดทุนสะสม

9. ตัวอย่างสถานการณ์จริง: ใช้สินเชื่อหมุนเวียนแล้วธุรกิจโตขึ้นอย่างไร?

กรณีที่ 1 – ร้านอาหาร

ก่อนมีเงินหมุน:

• ซื้อวัตถุดิบได้ทีละน้อย

• ราคาสูง

• กำไรน้อย

หลังได้วงเงินหมุนเวียน:

• ซื้อวัตถุดิบล็อตใหญ่ ราคาลด

• มีเมนูเพิ่มขึ้น

• บริการลูกค้าได้เร็วขึ้นกำไรเพิ่ม 20–40% ภายใน 3 เดือน

กรณีที่ 2 – ร้านค้าออนไลน์

ก่อนมีวงเงิน:

• ของขาดสต๊อกบ่อย

• ขายไม่ได้ช่วงโปร

หลังมีวงเงิน:

• สต๊อกสินค้าเต็ม

• รับออเดอร์ได้ไม่จำกัด

• ยอดขายโตขึ้น 50–150% ช่วงแคมเปญใหญ่

กรณีที่ 3 – ธุรกิจโลจิสติกส์

ก่อนมีวงเงิน:

• ต้องจ่ายค่าน้ำมันและค่าคนงานก่อน

• เงินเข้าช้า

หลังมีวงเงิน:

• ไม่มีสะดุด

• รับงานเพิ่มได้

• ขยายทีมได้เร็วกว่าเดิม

10. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ

Q1: ไม่มีสเตทเมนต์เยอะ ขอได้ไหม?

ได้ถ้ามีรายได้ชัดเจน เช่น รายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์

Q2: ต้องมีคนค้ำไหม?

บางประเภทต้อง แต่บางแบบไม่ต้อง เช่น สินเชื่อร้านค้าออนไลน์

Q3: ดอกเบี้ยแพงไหม?

เฉลี่ย 15–25% ต่อปี แต่จ่ายเฉพาะยอดที่ใช้จริง

Q4: ถ้ายอดขายตก จะถูกลดวงเงินไหม?

มีโอกาส แต่ถ้าคืนตรงเวลา ธนาคารมักไว้ใจ

Q5: ควรมีวงเงินเท่าไหร่ดี?

แนะนำประมาณ 1–2 เท่า ของต้นทุนรอบการขาย

สรุป: สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจคือเครื่องมือสำคัญในการโตของ SME

ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ “วงเงินหมุนเวียน” ช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้นอย่างมหาศาล ไม่ต้องปวดหัวกับสภาพคล่อง ซื้อของได้ทันเวลา รับงานใหญ่ได้ทันที และช่วยให้ธุรกิจเติบโตแบบมั่นคง

ธุรกิจที่มีเงินหมุน = เดินหน้าได้ทุกวันธุรกิจที่ไม่มีเงินหมุน = เสี่ยงสะดุดได้ทุกเวลา