ต่อไปนี้คือเทคนิคที่ธุรกิจโปรฯ ใช้จริง และช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

✅ 1. ใช้ OD เพื่อจ่ายของล็อตใหญ่ เพื่อลดต้นทุนต่อชิ้น

ผู้ค้าส่ง-ค้าปลีก-โรงงานทุกประเภทต่างรู้ว่า “ซื้อของล็อตใหญ่ = ราคาถูกกว่า”แต่หลายกิจการไม่มีเงินก้อน จึงซื้อทีละน้อย ทำให้ต้นทุนสูง

ใช้ OD มาช่วยปิดรอบการสั่งของล็อตใหญ่ แล้วเมื่อขายได้ ให้รีบเติมเข้าบัญชี → ชำระ OD → ลดดอกเบี้ยทันที

ประโยชน์:

• ได้ราคาต่อหน่วยลดลง

• มีกำไรต่อชิ้นเพิ่มขึ้น

• หมุนสต็อกได้เร็วกว่า

✅ 2. ใช้ OD แบบสั้น ไม่พกค้าง

ความลับของมืออาชีพคือOD ต้องใช้แบบ “เข้าเร็ว – ออกเร็ว” ไม่ใช่ค้างเป็นเดือน

ยกตัวอย่าง

• ใช้ OD 100,000 บาท 5 วัน

• ดอกเบี้ยคิด 5 วันเท่านั้น

• พอเงินเข้าก็หักดอกทันที

ธุรกิจที่ทำแบบนี้➜ เสียดอกเบี้ยรวมทั้งปีน้อยกว่า 2–4 เท่า➜ ได้ประโยชน์จากสภาพคล่องมากที่สุด

✅ 3. ใช้ OD เพื่อ “ต่อเวลา” ให้ธุรกิจ ไม่ใช่เพื่ออุดรูรั่ว

เจ้าของกิจการบางคนใช้ OD จ่ายทุกอย่างแบบไม่คิดสุดท้าย OD กลายเป็นหนี้ค้างเรื้อรัง

กฎทอง:OD คือเงินหมุน ไม่ใช่เงินไว้ใช้แก้ปัญหาขาดทุนระยะยาว

ควรใช้เพื่อ

• ซื้อของ

• เติมสต็อก

• ปิดรอบบัญชี

• รองรับค่าวัตถุดิบ

• ชำระซัพพลายเออร์

ไม่ควรใช้เพื่อ

• ปิดบัตรเครดิต

• ปิดหนี้นอกระบบ

• อุดธุรกิจที่กำลังขาดทุน

เพราะ OD เหมาะกับ “การหมุน” ไม่ใช่ “อุดรูรั่ว”

✅ 4. แยกบัญชีรายได้ – รายจ่าย เพื่อควบคุม OD ง่ายขึ้น

เทคนิคนี้สำคัญมากแต่คนมองข้าม

ให้คุณตั้ง 2 บัญชี:

• บัญชี A: รายรับทั้งหมดเข้า

• บัญชี B: ใช้สั่งจ่าย OD เท่านั้น

พอมีเงินเข้าในบัญชี A ให้โอนเข้า B เพื่อเคลียร์ OD

ข้อดี:

• ดูออกทันทีว่าวันนี้ค้าง OD เท่าไหร่

• ควบคุมการใช้จ่ายง่าย

• ไม่ใช้เกินตัว

• ระบบจัดการสภาพคล่องชัดเจน

✅ 5. ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ดอกเบี้ยถูกกว่า ให้เอามาโปะ OD ก่อน

OD มีดอกสูงกว่าเงินกู้บางประเภท เช่น

• สินเชื่อ SME ดอก 7–10%

• OD ดอก 12–15%

ถ้าคุณมีเงินก้อนหรือมีรายได้เข้า ให้นำไปโปะ OD ก่อนจากนั้นค่อยจ่ายอย่างอื่น

ลดดอกเบี้ยปีละหลายหมื่นถึงแสนบาทได้จริง

✅ 6. ใช้ OD เพื่อ “ลัดรอบเงินเข้า” ให้ธุรกิจเดินต่อได้เร็วกว่าเดิม

บางครั้งรายได้เข้าช้าเช่น

• ลูกค้าติดเครดิต 30 วัน

• แต่ซัพพลายเออร์ต้องจ่ายภายใน 7 วัน

ช่องว่าง 23 วันนี้ทำให้ทุกธุรกิจสะดุด

OD สามารถทำหน้าที่เป็น “ตัวเชื่อม” ระหว่างรอบบัญชีให้คุณเดินต่อได้โดยไม่สะดุด

✅ 7. ใช้ OD เพื่อเพิ่มจำนวนรอบหมุนของธุรกิจ

ยิ่งหมุนรอบได้เร็ว = กำไรต่อปีมากขึ้น

ตัวอย่างง่ายๆคุณกำไรต่อรอบ 10,000 บาทถ้ามีทุนหมุน 100,000 บาท หมุนได้ 1 รอบกำไร 10,000

แต่ถ้ามี OD 300,000 เพิ่มเข้ามาหมุนเพิ่มเป็น 4 รอบกำไรกลายเป็น 40,000 บาท

แม้จะเสียดอก 3,000–5,000 บาทกำไรก็ยังเพิ่มแบบหลายเท่า

นี่คือเหตุผลที่ผู้ประกอบการเก่งๆ ใช้ OD เพื่อ “เร่งรอบเงิน”

✅ 8. ใช้ OD เพื่อจ่ายรายการด่วน เช่น ค่าออเดอร์ที่ต้องปิดด่วน

บางครั้งโอกาสมาหาเร็วเช่น ลูกค้ารายใหญ่สั่งของทันทีแต่คุณไม่มีเงินจ่ายซัพทันที

OD คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณ “ไม่พลาดดีลใหญ่”

โอกาสครั้งเดียวอาจทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

✅ 9. กระจายการใช้ OD ให้เฉพาะกิจกรรมที่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น

ไม่ใช่ทุกค่าใช้จ่ายควรใช้ OD

ควรใช้กับ

• ต้นทุนที่เอาไปทำเงิน

• สินค้าที่หมุนได้

• วัตถุดิบ

• ค่าแรงที่ทำให้ผลิตงานได้เร็วขึ้น

ไม่ควรใช้กับ

• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

• ค่าเที่ยว, ค่าฟุ่มเฟือย

• รายจ่ายขาดทุนจม

OD ที่ดีต้อง ทำให้เงินเพิ่ม ไม่ใช่ลด

✅ 10. วางแผนโฟลว์เงิน (Cash Flow) 30 วัน เพื่อควบคุม OD แบบเต็มระบบ

ธุรกิจที่ใช้ OD แล้วไม่เป็นภาระคือธุรกิจที่“รู้ล่วงหน้าว่าเดือนหน้าจะมีเงินเข้าเท่าไหร่ และต้องจ่ายอะไรบ้าง”

คุณควรวางแผน 3 อย่าง

• รายรับที่คาดว่าจะเข้า

• รายจ่ายที่ต้องจ่าย

• ยอด OD ที่ต้องคืน

เมื่อวางแบบนี้ คุณจะใช้ OD ได้คมขึ้นมาก และดอกลดลงมหาศาล

⭐ สรุปใหญ่: OD เป็นเครื่องจักรทำเงิน ถ้าใช้เป็น

ถ้าคุณใช้ OD แบบมืออาชีพมันจะช่วยให้ธุรกิจคุณ

• เพิ่มกำไร

• ลดดอกเบี้ย

• เพิ่มรอบเงิน

• ได้ราคาต่อชิ้นถูกลง

• เติมสภาพคล่อง

• รองรับดีลใหญ่

• ทำให้ธุรกิจเติบโตเร็วกว่าเดิมหลายเท่า

แต่ถ้าใช้ผิดOD จะกลายเป็นภาระและทำให้เงินหายเร็วกว่าเดิม

ดังนั้นหลักสำคัญคือใช้เป็น – ใช้ถูก – ไม่ค้างนาน – ตั้งใจหมุนให้รอบเร็ว

นี่คือหัวใจของการใช้ OD ให้คุ้มค่าที่สุดในเชิงธุรกิจ สนใจติดต่อได้ที่ www.masteradvc.com